Skip to main content

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบัน โลกของการลงทุนกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้นทุกที

ไม่ว่าคุณจะลงทุนในรูปแบบเงินฝาก พันธบัตร หุ้น หรือคริปโทเคอร์เรนซี ก็ล้วนแต่จะต้องศึกษา หรือทำความรู้จักให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง การลงทุนในรูปแบบ 𝗜𝗻𝘃𝗲𝘀𝘁𝗺𝗲𝗻𝘁-𝗯𝗮𝘀𝗲𝗱 𝗖𝗿𝗼𝘄𝗱𝗳𝘂𝗻𝗱𝗶𝗻𝗴 หรือการลงทุนในหุ้นกู้ของ SMEs ก็เช่นกัน

ซึ่งตอนนี้ สยาม วาลิดัส แคปปิตอล (“Siam Validus”) บริษัทฟินเทค (Fintech) ชั้นนำได้ใช้แพลตฟอร์ม Crowdfunding มาเปิดโอกาสให้ SMEs ที่มีคุณภาพเข้ามาระดมทุน

โดย Siam Validus มีการใช้นวัตกรรมในการตรวจสอบอย่าง Surrogate Data Analytics ที่เข้ามาช่วยวิเคราะห์และประเมินความน่าเชื่อถือทางการเงินในแต่ละบริษัท SMEs ก่อนการระดมทุนจากนักลงทุนนั่นเอง

แต่การลงทุนย่อมมี ‘ความเสี่ยง’

ถึงแม้ว่าการลงทุนในรูปแบบ Investment-based Crowdfunding จะมีเทคโนโลยีของ Siam Validus มาช่วยคัดเลือกในเบื้องต้นแล้ว แต่นักลงทุนเองก็ควรศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตัวเอง เพื่อประเมินถึงความเสี่ยง และความเป็นไปได้ของผลตอบแทน ที่จะได้รับจากบริษัทที่เข้ามาร่วมระดมทุน 

หากจะถามว่านักลงทุนควรมีหลักเกณฑ์ในการสำรวจคุณภาพ SMEs อย่างไร อย่ากังวลใจไปเพราะ สยาม วาลิดัส จะพามาสำรวจ 5 วิธี แนะนำนักลงทุนต้องศึกษาก่อนที่จะเลือกบริษัทในการลงทุน

1. ประเมินความเสี่ยงจากข้อมูลของผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม Crowdfunding

สิ่งแรกที่ควรศึกษาก่อนตัดสินใจเลือกลงทุน คือการศึกษาว่าบริษัทนั้นมีความเสี่ยงอย่างไร หากลงทุนไปแล้ว โอกาสที่ทางบริษัทนั้นจะชำระหนี้คืนเป็นอย่างไร และเหตุผลของการขอระดมทุนสอดคล้องกับทิศทางข้อมูลของบริษัทหรือไม่

ในส่วนนี้ ทาง Siam Validus นอกจากพิจารณาคุณสมบัติ SMEs ที่มีมาตรฐานแล้วยังพัฒนา Credit Score ซึ่งจะช่วยสร้างแบบจำลองเพื่อกำหนดระดับความเสี่ยงของผู้ระดมทุน และเปิดเผยให้กับนักลงทุนเฟ้นหาบริษัทที่มีคุณภาพที่ต้องการระดมทุนขึ้นมายังแพลตฟอร์ม

2. ประเมินความสามารถของธุรกิจ SMEs

ในช่วงสถานการณ์ Covid-19 แน่นอนว่ามีหลายกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบไม่น้อย แต่ก็ยังมีกลุ่มธุรกิจที่ยังสามารถประคองตัวและดำเนินธุรกิจได้ภายในระบบซัพพลายเชนไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ผลิตหรือบริการต้นน้ำ หรือลูกค้าที่ซื้อวัตถุดิบเพื่อการผลิตต่อหรือใช้เองที่เรียกว่าปลายน้ำก็ดี

ถึงแม้ว่าธุรกิจนั้นอาจไม่ได้เติบโตตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ แต่ทาง Siam Validus มองว่า หากธุรกิจนั้นมีผู้บริหารที่สามารถจัดการระบบการเงินที่ดีและเส้นทาง ทางการค้าสามารถตรวจสอบได้ ก็จะช่วยดึงศักยภาพในการจัดการและนำเงินที่ได้จากระดมทุนเหล่านั้นไปใช้ในธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

3. ผลการดำเนินธุรกิจ

แน่นอนว่าการเลือกบริษัทนั้น หากต้องการความมั่นใจในตัวธุรกิจ นักลงทุนก็ควรที่จะดูผลการดำเนินงานของธุรกิจนั้น ๆ ร่วมด้วย โดยจะต้องเข้าไปดูตั้งแต่งบการเงิน รวมถึงที่มาของรายได้ และค่าใช้จ่าย ซึ่งจะทำให้นักลงทุนสามารถประเมินความเป็นไปได้ ต่อสถานการณ์ของธุรกิจในอนาคตได้อย่างมีเหตุมีผล

4. ระยะเวลาการกู้ยืมและผลตอบแทน %

หากมองภาพกว้าง หลายคนคงเข้าใจว่าการลงทุนลักษณะนี้ เป็นเพียงการมองที่ตัวเงินเท่านั้น แต่ความเป็นจริงแล้ว การดูที่ระยะเวลาการกู้ยืมควบคู่ไปกับอัตราผลตอบแทนนั้น ถือได้ว่าเป็นการวางแผนในการลงทุนที่จำเป็นอย่างหนึ่ง

โดยเราควรที่จะคำนวณอัตราผลตอบแทนที่จะได้รับ กับระยะเวลาที่จะได้รับเงินคืนให้ดีก่อนเลือกลงทุน เพื่อที่จะได้เป็นไปตามแผนที่นักลงทุนคาดหวังเอาไว้

5. ประเภทกลุ่มธุรกิจที่ตนเองได้ทำการศึกษาหรือมีข้อมูลเพียงพอต่อการตัดสินใจลงทุน

นอกจากนักลงทุนจะศึกษา และประเมินความสามารถในเชิงธุรกิจนั้น ๆ แล้ว

นักลงทุนควรที่จะเจาะลึกลงไปถึงความสามารถในเชิงการแข่งขัน การสร้างรายได้ และแนวโน้มการเติบโต โดยอาจจะเลือกกลุ่มธุรกิจที่มีการผลิตสินค้า/บริการที่นักลงทุนคุ้นเคยหรือสนใจเพื่อที่จะเข้าใจในตัวธุรกิจได้อย่างลึกซึ้ง รวมถึงเข้าใจด้านต้นทุน และกำไรของสินค้า เพราะการลงทุนประเภทนี้ ธุรกิจ SMEs มักจะต้องการเงินทุนหมุนเวียนใช้ในกิจการ ซึ่งไม่ได้มีหลักการที่ซับซ้อน ซึ่งถือเป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะบ่งบอกถึงความสามารถในการวิเคราะห์ให้เห็นถึงโอกาส และความเสี่ยงของนักลงทุน ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุนในการเริ่มลงทุนแบบ Crowdfunding ได้เป็นอย่างดี

หากอ่านกันมาถึงตรงนี้แล้ว เชื่อว่าทุกคนคงพร้อมที่จะเลือกบริษัทที่ต้องการจะลงทุนด้วยได้แล้วอย่างแน่นอน

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้.. เป็นเพียงวิธีที่ช่วยในการคัดเลือกบริษัทที่ต้องการจะร่วมลงทุนด้วยเท่านั้น ไม่ใช่ทางลัดแต่อย่างใด

ดังนั้น.. นักลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุนด้วยตัวเอง

* คำเตือน: การลงทุนในหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงเป็นการลงทุนสำหรับผู้ลงทุนที่มีความรู้และเข้าใจในด้านความเสี่ยง และสามารถในการตัดสินใจลงทุนด้วยตนเอง ซึ่งเหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุนของตนเอง โดยการลงทุนในหุ้นกู้คราวด์ฟันดิง ผู้ลงทุนควรพิจารณาเป็นการลงทุนจนครบกำหนดอายุของหุ้นกู้และไม่มีสภาพคล่อง รวมทั้ง หุ้นกู้คราวด์ฟันดิงเป็นการลงทุนที่ไม่ได้รับประกันความเสี่ยงจากบุคคลที่สาม และไม่ได้รับความคุ้มครองจากหน่วยงานใดๆ ของรัฐ ซึ่งผู้ลงทุนอาจจะสูญเสียเงินลงทุนบางส่วนหรือทั้งหมดได้
ดังนั้น ผู้ลงทุนจำเป็นต้องทำความเข้าใจลักษณะของหุ้นกู้คราวด์ฟันดิง ศึกษารายละเอียดในหนังสือชี้ชวน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และสามารถรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ ก่อนตัดสินใจลงทุน

สำหรับนักลงทุนที่สนใจเริ่มต้นลงทุนใน Crowdfunding สามารถลงทะเบียน หรือ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ โทร 02-026-6574 กด 2 และ ir@siamvalidus.co.th
สมัครเลย